ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับดาราจักรและเอกภพ

มนุษย์จะมีความเข้าใจพอสังเขปกับ สุริยะจักรวาล ซึ่งเป็นจักรวาลหนึ่งที่บรรจุอยู่ภายในดาราจักรที่ชื่อว่า... ทางช้างเผือก ซึ่งมีรูปร่างเหมือนใบจักรรูปวงรี แต่มีส่วนกว้างมากกว่า จึงดูคล้ายวงกลม หรืออาจจะกล่าวได้ว่ามีความรีเพียงเล็กน้อย ตรงกลางของใบจักรนี้มีความหนาแน่นของพลังงานมากที่สุด จึงมีความสว่าง และมีพลังงานรวมกันอยู่ในนาม พลังงานบริสุทธิ์ มีเส้นสนามแม่เหล็กที่สานกันเป็นสายใย ร้อยเอากลุ่มวัตถุ และดวงดาวทั้งหมด ให้อยู่ในตำแหน่งไม่เคลื่อนปะปนกันมีพิกัดชัดเจน อีกทั้งจักรวาลน้อยใหญ่ที่บรรจุอยู่ทั้งหมดเหล่านั้น ก็ยังหมุนโคจรรอบพลังงานบริสุทธิ์ อยู่ในใบจักรที่เรียกว่า ดาราจักรทางช้างเผือก
การกำหนดหาตำแหน่งของศูนย์กลางพลังงานของดาราจักรทางช้างเผือก คือ ลากเส้นตรงจากดวงอาทิตย์ไปดาวฤกษ์ดวงที่สาม นับจากปลายหางของกลุ่มดาวหมีใหญ่ กำหนดให้ตำแหน่งของดาวดวงที่สามนี้ อยู่ที่เทียบเท่ากับ ๕ นาฬิกา ตรงกลางของเรือนนาฬิกาคือ ดวงอาทิตย์ จะได้ตำแหน่งของพลังงานบริสุทธิ์อยู่ที่ตำแหน่ง ๑๒ นาฬิกา ดังนั้นจะมองเห็นพลังงานบริสุทธิ์คือ ไข่แดงของไข่ดาว และไข่ขาวคือ พื้นที่จักรวาลต่างๆ ทั้งหมด ที่บรรจุอยู่ภายในดาราจักรแห่งนี้ ดาราจักรที่โลกอยู่นี้เรียกว่า ทางช้างเผือก หรือ กาแลคซี่ทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy) ส่วนดาราจักรที่อยู่ด้านขวา ใกล้ที่สุดกับทางช้างเผือกของโลกใบนี้ คือ ดาราจักรอันดรอมดา (Andromeda) หลายๆ ดาราจักรร่วมกันเป็นเอกภพนั่นเอง
เอกภพ คือ พื้นที่ที่มีหลายๆ ดาราจักรรวมกันอยู่ มีขอบเขตกำหนดได้ด้วยจิต หรือคล้ายกับขอบของมิตินั่นเอง จะกว้างหรือแคบก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสมดุลของพลังงาน ทั้งภายในและภายนอกเอกภพนั้นๆ ดังนั้นถ้าจะเรียงให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น เห็นควรเริ่มจากขอบเขตขนาดเล็กไปหาขนาดใหญ่ จากดาวเคราะห์ที่มนุษย์อาศัยอยู่นี้ คือ
โลก
สุริยะจักรวาล
ดาราจักรทางช้างเผือก
เอกภพ
มหาเอกภพ





ดาราจักรต่างๆ ที่รวมกันเป็นเอกภพ
ณ การเริ่มต้นของเอกภพ
“ ไม่มีอะไรเลย นอกจากความว่างเปล่า ความว่างเปล่าอยู่ที่ไหน ”
การกำเนิดระบบสุริยะ

เอกภพ คือ ที่ว่างปราศจากสิ่งใด ที่อยู่ในมิติเวลาหนึ่ง มีความสามารถขยายและหดตามอายุและวัฏจักรของมัน ตามวิธีนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ดาราจักรมีหมดอายุได้ เช่น อันโดรเมดา เมื่อหมดอายุแกนกลางดาราจักรจะใช้งานไม่ได้ แม้มีพลังงาน ต้องรวมกับดาราจักรใกล้เคียง จึงเป็นเหตุให้เกิดการรวมเชื่อมต่อกัน ระหว่างดาราจักรทางช้างเผือกกับอันดรอมดา เป็นต้น
![]() | ||
ภาพที่ 1 พลังงานบริสุทธิ์รวมจับตัวเป็นจิตที่ตรงศูนย์กลางที่อยู่นั้นเป็นสภาพ สุญฺญตา | ||
การทำความเข้าใจอาจจะทำได้ยากเกินไป จึงเสนอตัวอย่างความเป็นไปของดาราจักรที่ชื่อว่า ดาราจักรอุตตรเกษตร เริ่มต้นเมื่อดาราจักรสมบูรณ์ด้วยพลังงาน สิ่งมีชีวิตทั้งหลายเริ่มอุบัติขึ้นบนดวงดาว พลังงานเริ่มกลับคืนสิ่งมีชีวิตต่ำค่อยๆ ขยับสูงขึ้นด้วยความสมดุลของธรรมชาติในระบบการวิวัฒนาการ นับได้ว่าตั้งแต่เริ่มของการอุบัติขึ้นของสิ่งที่มีชีวิตนั่น หมายถึง การเริ่มต้นของพลังงานเพื่อเคลื่อนตัวเข้าสู่ความเป็นพลังงานบริสุทธิ์ดังเดิม ในที่สุด หมายสู่ความประภัสสรเข้าที่เดิม การเกิดแรงระเบิดที่ผลักให้มวลรวมตัวกัน เกิดพลังงานบริสุทธิ์รวมจับตัวเป็นจิตที่ตรงศูนย์กลางที่อยู่นั้นเป็นสภาพ สุญฺญตา (รูปที่ ๑) จิตที่พัฒนาขึ้นแล้วมีความไม่รู้ จึงเป็นธรรมชาติที่ต้องเอาอวิชชาออกจากจิตเหล่านี้ เพื่อการกลับคืนสู่พลังงานรวมตัวเป็นพลังงาน ไม่คงเหลือสภาพมิติ ภพภูมิไม่มี คงเหลือแต่มนุษย์รุ่นสุดท้าย เป็นมนุษย์ที่มีจิตสูงทั้งนั้น เป็นที่ขุดรื้อของวิญญาณสู่หนทางถูกต้อง จะสละสภาพกายหยาบเมื่อหมดอายุขัย เคลื่อนจิตเข้าสู่พลังงานสูงสุด ทุกอย่างคืนสู่ที่เดิมแกนกลางดาราจักร ในสภาวะปัจจุบันของโลกใบนี้ การขาดสมดุลเช่นนี้ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในมิติวัตถุต่างๆ ขาดจากการปรับให้เกิดความสมดุลได้ ดังนั้นพลังชีวิตเริ่มสลาย การสลายแรงยึดโยงกรรม ส่งผลให้เกิดสภาวะอายุของธาตุขาดการเหนี่ยวนำ พลังงานยึดโยงก็สลายตัวออก ธาตุผสมแยกตัวเป็นธาตุเดิม ทุกอย่างก็สลายตาม เปลี่ยนสถานะตัวเอง อย่างเช่นดาวฤกษ์มีการยุบตัวเรียกว่า การดับ เกิดโพรงหลุมคล้ายหลุมดำดึงดูดมวลต่างๆ ให้กลับคืนสู่ความสมดุล ส่วนหนึ่งเหลือแต่ซากเป็นฝุ่นละออง ทุกอย่างเหมือนฉายภาพยนตร์ย้อนกลับ กลับคืนเป็นกลุ่มแก๊ส กลับคืนสู่แกนกลางดาราจักรเหลือแต่ฝุ่น เมื่อมีพลังงานสมบูรณ์กลับเข้าสู่ตนมากขึ้น การหมุนจากแกนกลางแกนกลางดาราจักรยังมีต่อเนื่อง ความสมดุลคืนพลังงานขาวและพลังงานดำที่อยู่ร่วมกัน หลุมดำกับพลังงานบริสุทธิ์ จะกลับคืนพลังงานบริสุทธิ์มากกว่าความบริสุทธิ์มากกว่า ถามว่าทำไมเป็นอย่างนี้ ตอบว่าเพราะเทวดารุ่นที่หนึ่งมีความสามารถปฏิบัติงานสำเร็จได้ นี้แหละคือความสำเร็จของเทวดารุ่นที่หนึ่ง เมื่อพลังงานบริสุทธิ์กลับคืนแกนดาราจักรมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดความไม่สมดุลการระเบิดก็เกิดขึ้นอีก การระเบิดของธาตุและพลังงาน คือ พลังงานที่ประกอบเป็นของหยาบ พลังงานบริสุทธิ์ส่วนด้านนอกแกนกลางดาราจักรจะมีลักษณะที่หยาบกว่าด้านใน ส่วนด้านในของแกนดาราจักรจะบริสุทธิ์สมบูรณ์แบบ เป็นที่จุดกำเนิดของธาตุรู้ที่ยิ่งใหญ่ คือ บ้านของเทวดายังไง การระเบิดพลังงานธาตุในรูปของแก๊สจะค่อยๆ รวมตัวกัน เริ่มมีความร้อนเกิดขึ้นจากการเสียดสี แล้วเกิดปฏิกิริยาฟิวชั่นเป็นดาวฤกษ์ เมื่อความร้อนต่ำลงจะเริ่มควบแน่นเป็นของเหลวรวมกับธาตุอื่น เป็นดิน น้ำ ลม ไฟ ประกอบเป็นดวงดาวต่างๆ ในดาราจักรมีกลุ่มแก๊สที่เรียกว่า เนบิวลา แก๊สพวกนี้จะก่อกำเนิดดาวดวงใหม่ๆ จะกระจายไปตามดาวต่างๆ ดาวเคราะห์มีมวลหนักแรงหมุนน้อยกว่าดาวฤกษ์ จึงเป็นบริวารของดาวฤกษ์ทำให้เกิดระบบสุริยะ แต่อยู่ในแรงดึงดูดเพื่อการจัดสมดุลของแกนกลางดาราจักร เหมือนแขนของพ่อกับแม่เรียก ดาราจักรใหม่ แต่เป็นดาราจักรใหม่ที่เกิดทับดาราจักรเก่าเวลาต่างกัน แกนกลางดาราจักรเดียวกัน จุดกำเนิดเดียวกันหมด มีอาณาเขตตามกำลังของแกนกลางดาราจักรที่จะเอื้อมไปถึง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมิติเวลาแห่งอาณาจักรขึ้น จากอาณาจักรเก่า “อุตตรเกษตร” เป็นอาณาจักรใหม่ “ทางช้างเผือก” ในปัจจุบันตามเวลาของมนุษย์ที่กำหนดบนโลกนี้